การรักษาความปลอดภัยขององค์กรของท่านทางออนไลน์ Keeping your organisation safe online

ค้นหาข้อมูลเพื่อช่วยให้ท่านเข้าใจถึงขั้นตอนต่างๆที่ควรดำเนินการเพื่อให้ชุมชนหรือองค์กรของท่านปลอดภัยทางออนไลน์

เหตุใดความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงสำคัญต่อกลุ่มชุมชนและองค์กรต่างๆ?

หน้านี้มีคำแนะนำและขั้นตอนบางส่วนที่ท่านสามารถดำเนินการเพื่อปกป้องกลุ่มชุมชนหรือองค์กรของท่านจากภัยคุกคามความปลอดภัยทางไซเบอร์ นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำเป็นการเฉพาะสำหรับรายบุคคลในการรักษาความปลอดภัยทางออนไลน์อีกด้วย

คำแนะนำนี้อิงจากภัยคุกคามที่พบเห็นได้บ่อยและร้ายแรงอย่างยิ่ง

  • การอัพเดต – อัพเดตซอฟต์แวร์อุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ของท่านให้เป็นปัจจุบันเพื่ออุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    • อัพเดตอุปกรณ์ของกลุ่มชุมชนหรือองค์กรของท่าน ได้แก่ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ เราเตอร์ WiFi และอุปกรณ์อื่นใดที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต รวมถึงอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ
    • ถ้าเป็นไปได้ควรใช้การอัพเดตอัตโนมัติ
  • การตรวจสอบสองชั้น (2FA) – เพิ่มความปลอดภัยให้กับบัญชีของท่านโดยการใส่รหัสผ่านและเพิ่มเติมอีกหนึ่งขั้นตอน เช่น รหัสแอพในโทรศัพท์ของท่าน
    • หมายเหตุ: เรียกอีกอย่างว่าการตรวจสอบสิทธิ์หลายชั้น (MFA) การยืนยันสองขั้นตอน (2SV) และเรียกขานแบบอื่นๆอีกหลายชื่อ
    • เปิด 2FA ในบัญชีของกลุ่มชุมชนหรือองค์กรทั้งหมดของท่าน
    • หากเป็นไปได้ ลองใช้ 2FA ที่ป้องกันการหลอกลวงทางออนไลน์ ซึ่งหมายความว่าท่านจะไม่หลงกลตกเป็นเหยื่อได้ อาจเป็นกุญแจความปลอดภัยทางกายภาพหรืออย่างอื่น เช่น ลายนิ้วมือหรือใบหน้าพิสูจน์ตัวตน
  • ติดตามบัญชีออนไลน์ของท่าน – ให้แน่ใจว่าอดีตสมาชิกไม่ได้รักษาสิทธิ์การเข้าถึงบัญชีของตนไว้หลังจากออกจากกลุ่มชุมชนหรือองค์กรแล้ว
    • หากท่านมีมากกว่าหนึ่งบุคคลเข้าใช้บัญชีเดียวกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแต่ละบุคคลมีการเข้าสู่ระบบที่แตกต่างกันและทุกคนเปิดใช้งาน 2FA ด้วย
    • จัดทำรายชื่อบัญชีผู้ใช้ทั้งหมด และปิดใช้งานบัญชีผู้ใช้ที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น เมื่อพนักงานลาออก
    • จดบันทึกอุปกรณ์ใดๆ ที่ท่านได้มอบให้แก่สมาชิกของท่าน และอย่าลืมรับคืนอุปกรณ์เหล่านั้นพร้อมกับรีเซ็ตเป็นค่าเดิมจากโรงงานที่ผลิตหากบุคคลนั้นออกจากองค์กร ท่านอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนรหัสทางกายภาพในการเข้าออกอาคารด้วย
  • ตรวจสอบว่าบุคคลใดมีสิทธิ์เข้าถึงบัญชีออนไลน์ของท่าน – บุคคลในกลุ่มชุมชนหรือองค์กรของท่านควรจะเข้าถึงได้เฉพาะในสิ่งที่บุคคลดังกล่าวต้องการเท่านั้น
    • หากบัญชีของบุคคลหนึ่งถูกเจาะข้อมูล ขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยบรรเทาอันตรายที่ผู้ร้ายอาจก่อขึ้นได้
    • ตรวจสอบและลบสิทธิ์ที่ไม่จําเป็นอย่างสม่ำเสมอ
    • หากท่านมีบัญชี "ผู้ดูแลระบบ" บัญชีเดียวที่ผู้ใช้หลายคนใช้ ควรตรวจสอบกิจกรรมที่ผิดปกติ พยายามหลีกเลี่ยงการใช้บัญชีประเภทนี้ โดยเฉพาะสำหรับการใช้งานรายวัน
    • กฎเหล่านี้ยังใช้ได้กับการเข้าถึงอุปกรณ์ของผู้ดูแลระบบ เช่น เราเตอร์
  • ตรวจสอบสัญญาของท่านกับผู้ให้บริการ – หากท่านได้ว่าจ้างบุคคลใดๆดูแลบริการไอทีแก่ท่าน
    • ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มชุมชนหรือองค์กรของท่าน
  • พึงทราบว่าบัญชีและระบบทั้งหมดของท่านทำงานร่วมกันอย่างไร ความเข้าใจการเชื่อมต่อจะช่วยให้ท่านทราบว่าผู้ร้ายสามารถเจาะข้อมูลทางใดได้บ้าง
    • ตรวจสอบการเชื่อมต่อระหว่างระบบของท่าน เช่น อีเมล คลังเก็บข้อมูลในคลาวด์ และแพลตฟอร์มบัญชี
    • พิจารณาใช้เครือข่ายส่วนตัวเสมือน (VPN) เพื่อความปลอดภัยทางออนไลน์เป็นพิเศษ การใช้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมออนไลน์ของท่านจากบุคคลใดก็ตามที่อาจพยายามติดตามท่าน ถือเป็นเรื่องดีอย่างยิ่งหากสมาชิกในกลุ่มชุมชนหรือองค์กรของท่านเชื่อมต่อจากระยะไกล
  • รณรงค์ให้บุคลากรของท่านมีความ "ชาญฉลาดในโลกไซเบอร์" – สมาชิกในกลุ่มชุมชนหรือองค์กรของท่านมีแนวโน้มที่จะตกเป็นเป้าหมายการต้มตุ๋นมากกว่าระบบของท่าน
  • วางแผนรับมือกับเหตุการณ์ – การมีแผนรองรับถือเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันมิให้บุคคลตื่นตระหนกเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น
    • แผนรองรับเหตุการณ์จะระบุว่าใครมีหน้าที่ใดบ้างในระหว่างเกิดเหตุการณ์ มีเทมเพลตบริการที่นี่ การจัดการกับเหตุการณ์  | NCSC
    • รวมแผนว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไรหากโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หรือระบบอื่น ๆ ล้มเหลว อัพเดตแผนดังกล่าวอยู่เสมอ
    • เก็บรายละเอียดการติดต่อของทุกคนที่จำเป็นและสำรองรายละเอียดไว้หากช่องทางหลักในการติดต่อใช้งานไม่ได้ (เช่น อีเมล)
    • เก็บแผนไว้ ณ ที่หนึ่งที่ใดนอกระบบของท่านด้วย ในกรณีที่ท่านไม่สามารถเข้าถึงได้

 

ดาวน์โหลดข้อมูลนี้

Last modified: